แก้วน้ำเก็บความเย็น

วิธีเลือกแก้วน้ำเก็บความเย็น

การจะเลือกแก้วน้ำเก็บความเย็น หรือแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ นั้นนอกจากจะเลือกจากรูปลักษณ์ภายนอกและขนาดความจุแล้วนั้น สิ่งที่เรายังต้องคำนึงถึงอีกนั่นก็คือวัสดุที่นำมาผลิต เพราะแก้วน้ำเก็บความเย็นหรือแก้วน้ำเก็บอุณหภูมินั้นควรที่จะผลิตมาจากสแตนเลสคุณภาพดี อย่างสแตนเลส 304 (Food grade) เพราะจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะสามารถใส่เครื่องดื่มเย็นหรือเครื่องดื่มร้อนดื่มได้อย่างปลอดภัย แข็งแรง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

แก้วน้ำเก็บความเย็นและแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีคุณสมบัติที่จะสามารถกักเก็บความร้อนและความเย็นได้อย่างยาวนาน ซึ่งบางรุ่นนั้นสามารถเก็บอุณหภูมิได้อย่างยาวนานถึง 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว และสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายสถานที่ ไม่ว่าจะนอกบ้าน ภายในบ้าน ออฟฟิศ โรงเรียน ฯลฯ และด้วยวัสดุที่แข็งแรงทนทาน พกพาสะดวกทำให้เราไม่ต้องมาคอยวิตกกังวลเลยว่าเมื่อทำตกแล้วจะเกิดการแตกร้าว เหมาะกับการนำมาใช้งานที่สุด

เลือกแบบ BPA-Free เมื่อแก้วน้ำเก็บความเย็นมีส่วนผสมของพลาสติก

แก้วน้ำเก็บความเย็นและแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ หากมีส่วนใดส่วนนึงที่ผลิตมาจากพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นส่วนฝา แก้วภายนอก หากมีส่วนของพลาสติก เราควรที่มองหาแก้วน้ำที่มีสัญลักษณ์กำกับไว้ว่าเป็น BPA-Free เพราะว่าอย่างที่หลายๆคนรู้กันว่าสาร BPA นั้นสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้โดยตรง หากเราใช้แก้วน้ำเหล่านั้นสัมผัสกับความร้อน ก็จะทำให้เกิดการหลุดลอกและปะปนลงไปในเครื่องดื่ม หากเราใช้แก้วน้ำเก็บความเย็นนั้นเป็นประจำทุกวัน ก็อาจจะทำให้เราเกิดความเสี่ยงต่างๆต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือความผิดปกติของเซลล์ เป็นต้น

เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานด้วย แก้วน้ำเก็บความเย็น 2 ชั้น

การจะเก็บรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มให้คงอยู่ยาวนาน การเลือกแก้วน้ำแบบที่มีผนังสูญญากาศ 2 ชั้นจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มให้สามารถอยู่ในแก้วได้ยาวนานขึ้น เพราะแก้วน้ำเก็บความเย็นแบบที่มีผนังสุญญากาศ 2 ชั้นนั้น ผนังชั้นในและชั้นนอกจะเป็นสุญญากาศ ซึ่งอากาศในบริเวณตรงช่องว่างนี้จะมีหน้าที่ทำเป็นฉนวนเพื่อป้องกันความร้อนได้อย่างดี ส่งผลให้ความร้อนถ่ายเทออกมาได้ช้า ที่สำคัญผนังแก้วน้ำเก็บความเย็นแบบ 2 ชั้น ยังทำให้เราสามารถจับแก้วน้ำได้โดยที่เราจะไม่ได้รู้สึกถึงความเย็นหรือความร้อนจากภายในตัวแก้วอีกด้วย

เลือกแก้วน้ำเก็บความเย็นให้เหมาะกับตัวเอง

ในแต่ละวัน แต่ละคนก็มีการดื่มน้ำที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตและปริมาณน้ำที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งแต่ละคนสามารถคำนวณหาปริมาณน้ำที่ร่างกายควรได้รับต่อวันได้จากการคำนวณตามสูตรนี้ [น้ำหนัก x 2.2 x 30/2] /1000 = ปริมาณน้ำ (ลิตร) ซึ่งแก้วเก็บความเย็นก็จะมีหลากหลายขนาดที่แตกต่างกันออกไป แต่แก้วน้ำเก็บความเย็นที่เป็นที่นิยมมักจะมีขนาดใหญ่ เพราะทำให้สามารถดื่มน้ำได้เกือบทั้งวันโดยที่ไม่ต้องเติมบ่อยๆ ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับทั้งขนาดและรูปแบบความสวยงามของแก้วน้ำเก็บความเย็น หรือแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิด้วยนั่นเอง